THIS CONTENT HAS BEEN ARCHIVED

ยุโรปที่เป็นหนึ่งเดียวในฐานะสมอหลักของระเบียบโลกซึ่งกำลังขาดเสถียรภาพ

25.03.2017
Teaser

ในวันที่ 25 มีนาคมศกนี้ สหภาพยุโรปจะระลึกถึงวาระครบรอบ 60 ปีของการลงนามในสนธิสัญญาโรม ซึ่งเป็นก้าวแรกของการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของยุโรป ตั้งแต่การก่อตั้งประชาคมยุโรปใน ค.ศ. 1957 (พ.ศ. 2500) ใน 6 ทศวรรษที่ผ่านมา ประชากรในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปนั้น ได้อยู่อย่างสุขสบายด้วยสันติภาพ ความรุ่งเรือง และความมั่นคงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในทวีปยุโรป ความแตกต่างนี้ สามารถมองเห็นและเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ที่สงครามที่ใหญ่หลวงและรุนแรงในช่วงค.ศ. 1914 และ ค.ศ.1945 ได้คร่าชีวิตชาวยุโรปไปหลายล้านคน และทิ้งไว้เพียงการสูญเสีย และความแตกแยก สำหรับประเทศต่างๆในทวีปที่ผ่านการทำสงครามมาเป็นเวลายาวนาน การรวมตัวเข้าด้วยกันเป็นสหภาพยุโรป นั้นคือ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการสร้างสันติภาพในประวัติศาสตร์ของเรา

Text

ในวันที่ 25 มีนาคมศกนี้  สหภาพยุโรปจะระลึกถึงวาระครบรอบ 60 ปีของการลงนามในสนธิสัญญาโรม ซึ่งเป็นก้าวแรกของการรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของยุโรป ตั้งแต่การก่อตั้งประชาคมยุโรปใน ค.ศ. 1957 (พ.ศ. 2500) ใน 6 ทศวรรษที่ผ่านมา ประชากรในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปนั้น ได้อยู่อย่างสุขสบายด้วยสันติภาพ ความรุ่งเรือง และความมั่นคงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในทวีปยุโรป ความแตกต่างนี้ สามารถมองเห็นและเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจนเมื่อเทียบกับครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ที่สงครามที่ใหญ่หลวงและรุนแรงในช่วงค.ศ. 1914 และ ค.ศ.1945 ได้คร่าชีวิตชาวยุโรปไปหลายล้านคน และทิ้งไว้เพียงการสูญเสีย และความแตกแยก สำหรับประเทศต่างๆในทวีปที่ผ่านการทำสงครามมาเป็นเวลายาวนาน การรวมตัวเข้าด้วยกันเป็นสหภาพยุโรป นั้นคือ ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการสร้างสันติภาพในประวัติศาสตร์ของเรา

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ เรากำลังอาศัยอยู่ในยุคที่ไม่มีความแน่นอน วาระครบรอบ 60 ปีของการลงนามในสนธิสัญญาโรมนั้นจึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เน้นย้ำพันธสัญญาที่เรามีต่อค่านิยม และเป้าหมายที่สหภาพยุโรปได้ถูกก่อตั้งขึ้น และ ก้าวต่อไปข้างหน้าด้วยความจริงจังและความปรารถนาอย่างแรงกล้า

ในปัจจุบันนี้ โลกของเรากำลังเผชิญหน้ากับความไม่มั่นคง ความสมดุลของขั้วอำนาจในโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไป ในขณะที่พื้นฐานของการอยู่ร่วมกันบนกฎเกณฑ์สากลกำลังถูกตั้งคำถามอยู่บ่อยครั้ง สหภาพยุโรปจะเป็นกำลังสำคัญในการรักษาและส่งเสริมเสถียรภาพของระเบียบโลก

สหภาพยุโรปเป็นที่สองในเศรษฐกิจโลก เป็นตลาดโลกที่ใหญ่ที่สุดและผู้นำด้านการลงทุนในต่างประเทศในเกือบทุกภูมิภาคทั่วโลก เราก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญด้วยการรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวในเวทีโลก ด้วยการเป็นผู้สนับสนุนหลักในการกำจัดอุปสรรคทางการค้าโดยการร่วมเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) และด้วยการบรรลุข้อตกลงทางการค้าทวิภาคีกับคู่ค้าหลายประเทศทั่วโลก เช่น ข้อตกลง CETA กับประเทศแคนนาดา ซึ่งปัจจัยเหล่านี้เอื้ออำนวยให้บริษัทส่งออกของสหภาพยุโรปได้เติบโตและสร้างงานกว่า 30 ล้านตำแหน่ง

นอกจากนี้ เรายังลงทุนกับความร่วมมือในการพัฒนาและการช่วยเหลือทางมนุษยธรรมไปมากกว่าใครในโลก สหภาพยุโรปกำลังมีบทบาทที่มากขึ้นในการเป็นผู้ส่งเสริมความมั่นคงโลก

สหภาพยุโรปจะยังคงเป็นกำลังหลักที่สำคัญในด้านความร่วมมือ  ที่หุ้นส่วนของเราให้ความเชื่อมั่น

เราสนับสนุนพหุนิยม สิทธิมนุษยชน และความร่วมมือระหว่างประเทศ

เราสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน สังคมเพื่อคนทั้งมวล และการต่อต้านความไม่เท่าเทียมทางการศึกษา ทางประชาธิปไตย และทางสิทธิมนุษยชน สิ่งเหล่านี้นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือที่พึงกระทำ ยังเป็นการลงทุนอย่างคุ้มค่าสำหรับความมั่นคงและความรุ่งเรืองของเราอีกด้วย

สหภาพยุโรปเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินในการพัฒนารายใหญ่ที่สุดของโลก เรามีบทบาทในการวางแผนจัดทำเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ และเราได้นำเป้าหมายเหล่านี้ไปปฏิบัติแล้ว สหภาพยุโรปได้มอบการช่วยเหลือทางด้านการพัฒนาให้กับ 150 ประเทศทั่วโลก และกำลังมุ่งเน้นไปที่การให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ที่ยากจนที่สุด ในช่วงปีค.ศ.2014-2017 งบประมาณด้านการช่วยเหลือของสหภาพยุโรปประมาณ 75 เปอร์เซ็น นั้นจะถูกมอบให้กับประเทศที่ต้องประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือปัญหาความขัดแย้ง ที่ทำให้ประชาชนของประเทศนั้นๆ ตกอยู่ในความเสี่ยงและอันตรายอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งสหภาพยุโรปนั้นเป็นผู้บริจาครายเดียวของโลก ที่มอบความช่วยเหลือให้กับทุกประเทศที่กำลังอ่อนแอหรือได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากความขัดแย้ง

เราสนับสนุนกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศที่ปกป้องคุ้มครองประชาชนจากการข่มเหงและใช้อำนาจในทางที่ผิด และขยายขอบเขตและมาตรฐานด้านการคุ้มครองในสิทธิ การทำงานระหว่างสหภาพและประเทศสมาชิกของเรา ได้ส่งเสริมให้ประชาคมโลกได้ริเริ่มข้อตกลงเพื่อการปฏิรูปใหม่ เช่น เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสนธิสัญญาปารีส ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ สหภาพยุโรปจะมีบทบาทที่สำคัญใหม่ๆ มากขึ้น ในโลกยุคที่การช่วงชิงอำนาจได้เกิดขึ้นอีกครั้ง

สภาวะการระหว่างประเทศที่เปราะบางนั้นต้องการความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่การตัดทอนการมีส่วนร่วม นี่จึงเป็นสาเหตุที่สหภาพยุโรปจะยังคงสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือสหประชาชาติต่อไป ความร่วมมือระหว่างเราและยูเอ็นนั้น ครอบคลุมไปทั้ง ภารกิจสันติภาพ ความพยายามทางการทูต ความร่วมมือด้านสิทธิมนุษยชน และความพยายามในการต่อสู้กับปัญหาความอดอยากและปัญหาด้านอาชญากรรมและการกระทำที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ สหภาพยุโรปยังมีส่วนร่วมและพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่องค์กรส่วนภูมิภาค เช่นสหภาพแอฟริกา  สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน และสภาอาร์กติกอีกด้วย

สหภาพยุโรปยังพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือกับประชากรที่ได้ผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติและจากมนุษย์ วิกฤตการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ยังคงเป็นภาระสากล และในค.ศ.2016 ที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้มอบงบประมาณบรรเทาทุกข์กว่า 1.5 ล้าน ล้าน ยูโร สำหรับอาหาร ที่อยู่อาศัย การปกป้อง และการให้บริการทางสาธารณสุขกับประชากรถึง 120 ล้านคน ในกว่า 80 ประเทศ ตั้งแต่การเริ่มต้นของปัญหาความขัดแย้งในประเทศซีเรียใน ค.ศ. 2011 สหภาพยุโรปได้เป็นผู้บริจาคเดี่ยวรายใหญ่รายเดียว ที่ช่วยเหลือ ประชากรชาย สตรีและเด็กที่ผลัดถิ่นหลายล้านคน เนื่องจากความขัดแย้ง ทุกประเทศในโลก สามารถขอความช่วยเหลือจากกลไกการคุ้มครองพลเรือนของสหภาพยุโรปได้ โดยตั้งแต่การบังคับใช้ในค.ศ. 2001 กลไกนี้ได้เข้ามอบความช่วยเหลือแก่สถานการณ์ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงมากที่สุดในโลก เช่น เหตุการณ์ภัยพิบัติร้ายแรงสามเรื่องในญี่ปุ่น ในค.ศ.2011 เหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ค.ศ. 2015 วิกฤตการผู้ลี้ภัยในยุโรป และ พายุเฮอร์ริเคนแมทธิวในประเทศเฮติ ในค.ศ. 2016

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งหนึ่งที่จะไม่เปลี่ยนแปลงไป คือ สหภาพยุโรปจะยังคงยึดมั่นในการสนับสนุนสันติภาพและความมั่นคง ความร่วมมือทางด้านการพัฒนา สิทธิมนุษยชน และการตอบสนองต่อวิกฤตด้านมนุษยธรรม ให้เป็นหลักสำคัญในนโยบายด้านการต่างประเทศและความมั่นคงของเรา

บทความโดย ฯพณฯ เอกอัครราชทูต เฆซุส มิเกล ซันซ์   หัวหน้าคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย

Category
Local Statements
Location

Bangkok

Editorial sections
Thailand