ถาม - ตอบ: ระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลผู้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลกของสหภาพยุโรป

07.12.2020
Brussels

1. เหตุใดสหภาพยุโรปจึงออกระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลผู้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก?

การละเมิดหรือการกระทำผิดร้ายแรงต่อสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วโลก และบ่อยครั้งที่ผู้กระทำผิดไม่ได้รับผลของการกระทำแต่อย่างใด  สหภาพยุโรปไม่อาจจะเพิกเฉยต่อการละเมิดหรือการกระทำผิดต่อสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงได้    การออกระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลผู้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก  ซึ่งมีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า EU Global Human Rights Sanctions Regime (EUGHRSR) นั้น  จึงถือเป็นความริเริ่มสำคัญเพื่อแสดงความมุ่งมั่นของสหภาพยุโรปในอันที่จะเสริมสร้างบทบาทของเราในการหยุดยั้งการละเมิดหรือการกระทำผิดร้ายแรงต่อสิทธิมนุษยชนทั่วโลก

จุดประสงค์หลักของระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลผู้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก   ก็เพื่อให้การส่งเสริมและปกป้องสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญอย่างหนึ่งของนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปนั้น  มีผลลัพธ์โดยตรงและเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น      ความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เสรีภาพ ประชาธิปไตย ความเท่าเทียม หลักนิติธรรม และสิทธิมนุษยชน ล้วนเป็นองค์ประกอบหลักของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา   การละเมิดสิทธิมนุษยชนในรูปแบบต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ การทรมาน  การค้าแรงงานทาส ความรุนแรงทางเพศและที่มีเหตุจากเพศสภาวะ การบังคับบุคคลให้สูญหาย รวมถึงการค้ามนุษย์ ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งซึ่งเราไม่อาจยอมรับได้ ด้วยเหตุนี้ การยุติการกระทำที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนเหล่านี้จึงถือเป็นเป้าหมายสำคัญของสหภาพยุโรป

เรามีเครื่องมือหลายอย่างอยู่ในมือสำหรับตอบสนองต่อปัญหาการละเมิดหรือการกระทำผิดด้านสิทธิมนุษยชน  เช่น การเจรจาทางการเมืองกับประเทศคู่ค้าและพันธมิตร หรือความร่วมมือระดับพหุภาคี  การคว่ำบาตรบุคคลหรือองค์กรนั้นก็เป็นเครื่องมือหนึ่งที่เราสามารถนำมาใช้ได้

ในปัจจุบัน สหภาพยุโรปได้ขึ้นบัญชีบุคคลและหน่วยงานจำนวนกว่า 200 รายที่มีส่วนในการละเมิดหรือกระทำผิดต่อสิทธิมนุษยชนแล้ว    โดยใช้มาตรการคว่ำบาตรที่มีอยู่เดิม  (แต่การคว่ำบาตรในอดีตนั้น  มักจะมีผลบังคับใช้เฉพาะกับพลเมืองของสหภาพยุโรปนอกพรมแดน  และบุคคล ธุรกิจ หรือองค์กรที่ประกอบกิจการในเขตแดนของสหภาพยุโรป)

ระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลผู้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลกนี้   จะให้อำนาจสหภาพยุโรปในการลงโทษการละเมิดหรือกระทำผิดร้ายแรงต่อสิทธิมนุษยชนได้โดยไม่จำกัดว่าการกระทำดังกล่าวจะเกิดขึ้นที่ใด  ต่างจากการคว่ำบาตรที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ซึ่งเป็นการกระทำเพื่อตอบโต้ประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ

อย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรก็หาใช่จุดสิ้นสุดไม่  หากแต่เป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ครอบคลุมมากขึ้นของสหภาพยุโรป  และเป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยขับเคลือนแผนปฏิบัติการเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของสหภาพยุโรป ค.ศ. 2020 - 2024 (พ.ศ. 2563 – 2567) อันเป็นแผนงานที่กำหนดยุทธศาสตร์โดยรวมสำหรับการบรรลุเป้าหมายด้านสิทธิมนุษยชนของเราในระยะเวลาห้าปีข้างหน้า

สหภาพยุโรปนำการคว่ำบาตรมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เราต้องการจะเห็น   และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อนโยบายที่เราต้องการจะเปลี่ยน   โดยพุ่งเป้าไปที่วิธีการที่ถูกนำมาใช้ดำเนินนโยบายนั้นๆ  รวมถึงผู้มีส่วนทำให้นโยบายดังกล่าวเกิดขึ้นและดำรงอยู่ด้วย 

 

2. ใครเป็นเป้าหมายของระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลผู้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลกของสหภาพยุโรป?

ระเบียบข้อบังคับ EUGHRSR นี้มีผลต่อบุคคลหรือหน่วยงานทั่วโลกที่อยู่เบื้องหลังหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดหรือการกระทำผิดร้ายแรงต่อสิทธิมนุษยชนในด้านต่าง ๆ  ทั้งนี้ อาจรวมไปถึงบุคคลหรือหน่วยงานที่แม้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดโดยตรงแต่ก็มีความสัมพันธ์กับบุคคลหรือหน่วยงานผู้ละเมิดหรือกระทำผิดต่อสิทธิมนุษยชนด้วย

ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของมาตรการนี้อาจเป็นได้ทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ซึ่งไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ  โดยไม่คำนึงว่าจะอยู่ที่ใด และไม่ว่าการละเมิดหรือการกระทำผิดร้ายแรงต่อสิทธิมนุษยชนนั้นจะเกิดขึ้นในประเทศของเขา ในประเทศอื่น หรือข้ามพรมแดน

การคว่ำบาตรของสหภาพยุโรปนั้นมีเป้าหมายที่ชัดเจนและไม่เคยเพ่งเล็งไปที่พลเรือน    ระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลผู้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลกของสหภาพยุโรปนี้  มีบทบัญญัติเฉพาะสำหรับการยกเว้นด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม ซึ่งเปิดโอกาสให้รัฐสมาชิกสามารถอนุมัติการกระทำใดใดก็ตามที่ไม่อาจทำได้ในกรณีอื่น  หากการกระทำดังกล่าวเป็นไปเพื่อจุดประสงค์ด้านมนุษยธรรม (อ่านเพิ่มเติมในคำถามข้อที่ 6)

 

3. ระเบียบข้อบังคับ EUGHRSR นี้ครอบคลุมการกระทำใดบ้าง?

ระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรองค์กรและบุคคลผู้มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลกของสหภาพยุโรปนี้  จะใช้กับการละเมิดหรือการกระทำผิดต่อสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง โดยการกระทำดังกล่าวได้แก่ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์  อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ การทรมาน การปฏิบัติหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรี การค้าแรงงานทาส   วิสามัญฆาตกรรมและการสังหารอย่างรวบรัดหรือโดยพลการ   การบังคับบุคคลให้สูญหาย   และการจับกุมหรือคุมขังโดยพลการ

นอกจากนี้ ระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการคว่ำบาตรฯ ของสหภาพยุโรปยังครอบคลุมถึงการกระทำอื่น ๆ ที่เป็นการละเมิดหรือการกระทำผิดที่แพร่หลาย เป็นระบบ หรือส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเป้าหมายด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงร่วมดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 21 ของสนธิสัญญาว่าด้วยสหภาพยุโรป   การค้ามนุษย์  การละเมิดสิทธิมนุษยชนซึ่งกระทำโดยผู้ลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานข้ามชาติ ความรุนแรงทางเพศและมีเหตุจากเพศสภาพ การละเมิดต่อเสรีภาพในการชุมนุมอย่างสันติ การละเมิดต่อเสรีภาพในการแสดงความเห็น   และการละเมิดต่อเสรีภาพในการนับถือศาสนาหรือความเชื่อ

 

4. การลงโทษแบบใดที่อยู่ภายใต้ระเบียบข้อบังคับ EUGHRSR นี้?

ภายใต้ระเบียบข้อบังคับ EUGHRSR ผู้ที่ละเมิดหรือกระทำผิดร้ายแรงต่อสิทธิมนุษยชนอาจถูก 1. ห้ามเดินทางเข้าสหภาพยุโรป 2. อายัดทรัพย์สิน 3. ห้ามรับสินทรัพย์หรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจใดใดจากพลเมืองของสหภาพยุโรป (เพิ่มเติม ในข้อที่ 5)

 

5. ระเบียบข้อบังคับ EUGHRSR นี้มีผลอย่างไรต่อพลเมืองยุโรปและผู้ประกอบธุรกิจในสหภาพยุโรป?

ระเบียบข้อบังคับ EUGHRSR จะช่วยส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นค่านิยมหลักของสหภาพยุโรป ด้วยการทำให้ผู้กระทำการละเมิดหรือทำผิดต่อสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงนั้นได้รับความเสียหายจากการถูกจำกัดการเดินทางเข้าสหภาพยุโรปและถูกอายัดทรัพย์สินที่อยู่ในรัฐสมาชิก นอกจากนั้น ระเบียบข้อบังคับนี้ยังกำหนดให้ผู้ประกอบการในสหภาพยุโรปมีพันธะผูกพันที่จะต้องยึดทรัพย์สินของผู้กระทำผิด และไม่สามารถให้การสนับสนุนเงินทุนหรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจอื่นๆ ให้แก่ผู้กระทำผิดได้

รัฐสมาชิกของสหภาพยุโรปจะเป็นผู้นำมาตราการลงโทษต่างๆ ไปปฏิบัติ  หากท่านมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการต่าง ๆ ภายใต้ระเบียบข้อบังคับนี้  โปรดติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หากท่านประสงค์ที่จะค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบังคับใช้ระเบียบข้อบังคับ  EUGHRSR  สามารถดูได้จากคำสั่งของคณะกรรมาธิการยุโรปว่าด้วยการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับ (สหภาพยุโรป) ที่ 1998/2020

 

6. การลงโทษตามระเบียบข้อบังคับ  EUGHRSR จะมีผลกระทบต่อประชาชนหรือไม่?

บทลงโทษทั้งหมดของสหภาพยุโรปได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชนให้มากที่สุด  ระเบียบข้อบังคับ  EUGHRSR นี้จะใช้สำหรับลงโทษตัวบุคคลซึ่งกระทำผิดและถูกขึ้นบัญชีดำเท่านั้น (เช่น ห้ามเดินทางเข้าสหภาพยุโรป  ถูกอายัดทรัพย์สิน และไม่สามารถรับถ่ายโอนสินทรัพย์หรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจใดใดได้) ทั้งนี้บทลงโทษดังกล่าวจะไม่กระทบต่อการจัดหาปัจจัยสำหรับการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมไปถึงการช่วยเหลือทางด้านการแพทย์ นอกจากนั้น การยกเว้นโดยเหตุผลด้านมนุษยธรรมเป็นการเฉพาะก็สามารถทำได้ด้วย

ประการสำคัญ การลงโทษต่อผู้กระทำผิดดังกล่าวยังมีข้อยกเว้นตามมาตรฐานทั่วไป เช่น การยกเว้นเพื่อให้ผู้ถูกคว่ำบาตรมีปัจจัยเพียงพอที่จะซื้อสินค้าซึ่งจำเป็นต่อชีวิตประจำวันทั้งสำหรับตัวเองและสมาชิกในครอบครัวที่ต้องพึ่งพาผู้ถูกคว่ำบาตร    รวมไปถึงการซื้ออาหาร ยารักษาโรคและการรักษาพยาบาลด้วย

นอกจากนี้แล้ว ระเบียบข้อบังคับ EUGHRSR ยังอนุญาตให้มีการยกเว้นเพื่อจุดประสงค์ด้านมนุษยธรรมเป็นการเฉพาะ  การกระทำบางประเภทที่ระเบียบข้อบังคับนี้ห้ามไว้   อาจสามารถทำได้หากเจ้าหน้าผู้มีอำนาจในรัฐสมาชิกอนุญาตให้ทำ

การยกเว้นเพื่อจุดประสงค์ด้านมนุษยธรรมเป็นการเฉพาะเปิดโอกาสให้รัฐสมาชิกให้อำนาจแก่บุคคลหรือองค์กรใดใดก็ตามในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ถูกคว่ำบาตร   ทำให้สามารถนำสินทรัพย์หรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจที่ถูกยึดนั้นไปใช้ได้ในบางส่วน  หรือสามารถจัดสรรความช่วยเหลือและทรัพยากรที่จำเป็นให้แก่ผู้ถูกคว่ำบาตรได้หากการทำเช่นนั้นเป็นไปเพื่อจุดประสงค์ด้านมนุษยธรรม  เช่น การส่งมอบหรือการอำนวยความสะดวกต่อการส่งมอบความช่วยเหลือ ทั้งในเรื่องของอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร  และการเคลื่อนย้ายหรืออพยพผู้ปฏิบัติงานด้านมนุษยธรรมรวมทั้งการขนถ่ายความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้อง  

ท่านสามารถจะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับนี้ได้จากคำสั่งของคณะกรรมาธิการยุโรปเรื่องการดำเนินการตามเงื่อนไขของระเบียบข้อบังคับ (สหภาพยุโรป) ที่ 1998/2020

 

7. ใครบ้างที่มีอำนาจเสนอบทลงโทษภายใต้ระเบียบข้อบังคับนี้?

ตามมาตราที่ 5 ของมติคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปว่าด้วยการคว่ำบาตรการละเมิดหรือการกระทำผิดต่อสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง      ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายด้านความมั่นคง และรัฐสมาชิกแห่งสหภาพยุโป  มีอำนาจเสนอชื่อบุคคลหรือองค์กรให้พิจารณาขึ้นบัญชีดำได้ หลังจากนั้นคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปจะเป็นผู้วินิจฉัยข้อเสนอดังกล่าว

ดูต้นฉบับภาษาอังกฤษและเชิงอรรถที่ Questions and Answers: EU Global Human Rights Sanctions Regime